Do you
know angkor {30}
#เสือซ่อนลิป
อ่านตอนที่
29 ในจอยลดากับคัทก่อนนะคะ
เบาเบานะครับ เดี๋ยวเสือตื่น
แท้จริงแล้วแดนดินก็แค่แกล้งทำเป็นวอนขอให้เสือได้ใจเท่านั้น
ผู้ชายแรงเยอะอย่างที่ก็เห็นกันดีแล้วตอนต่อสู้
มีเหรอที่ของแค่นี้จะมัดเขาติดเตียงเอาไว้ได้
มิหนำซ้ำไอ้สายเอี๊ยมสีดำเส้นเล็กที่ผูกไว้ด้วยเงื่อนกระตุก
อย่างที่ไม่รู้ว่าเจ้าของมันจงใจผูกให้แกะง่ายๆหรือเปล่า
ก็ยิ่งทำให้แดนดินไม่คิดจะทนกลั้นความต้องการได้อีกต่อไป
“ถ้าบทลงโทษของอังจบลงแล้ว...
งั้นคราวนี้ ตาแดนบ้างนะครับ” ร่างสูงรวบสองแขนสอดเข้าไปกอดที่เอวบางเพื่อแสดงให้เห็นว่าตอนนี้เขาไร้ซึ่งสิ่งผูกมัดใดใดแล้ว
“....”
“แต่ไม่ใช่บทลงโทษอย่างที่อังทำหรอกนะ”
“ละ....แล้วอะไร”
คำตอบที่อังกอร์ได้รับก็ทำเอาหมดความซ่ากับแดนดินไปอีกนานเลยล่ะ
“บทนายพรานที่แกล้งเป็นเหยื่อ...กำลังล่าเสืออังกอร์”
ถ้อยคำถูกพูดออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
หากแต่เปี่ยมไปด้วยความกระหายและต้องการร่างเล็กในอ้อมแขนแกร่ง
ซึ่งตอนนี้เริ่มหมดท่าจะสู้
จากตอนแรกพยายามปั้นหน้าเล่นบทเสือแซ่บคนเก่งเพื่อเอาคืนกับสิ่งที่แดนดินเคยทำกับตัวเองไว้
แต่แล้วก็พลาดท่าจนต้องกลับสู่สภาพแมวน้อยตัวสั่นอีกครั้ง
ฮื่อ..
จะหนียังไง
จะหนีจากแดนยังไงดี
ลูกแมวน้อยตัวสั่นระริก
ทั้งหันหน้าซ้ายขวากลับไปมาอย่างนึกคิดหาทางรอดจากพรานป่าที่ยืนกอดเขาเสียแน่นอยู่ข้างหลัง
สุดท้ายเขาก็หยิบยกเรื่องนี้มาอ้างหวังให้แดนดินหยุด
“ตะ...แต่เราแค่คุยกันนะแดน"
“หื้ม”
"อังเพิ่งจะให้โอกาสแดนกลับมาคุยด้วย
เราจะทำมากกว่านี้ไม่ได้”
คนฟังน่ะขมวดคิ้วเข้าเป็นปมเลย
เพราะถ้าอังกอร์อ้างเรื่องที่เพิ่งจะคืนดีกันหมาดๆ
เขาเองก็แอบรู้สึกผิดและคิดว่าต้องห้ามใจอยู่ลึกๆ แต่มันจะไปห้ามใจกันได้ยังไงวะ
แต่ละอย่างที่อังกอร์ทำกับแดนดินซะก่อนสิ
จับมัดด้วยเอี๊ยม
จูบหอมเขา
ใช้ปากทำให้
แล้วยังจะไอ้ท่าเลียน้ำที่เลอะขอบปากนั่นอีก
ใครมันจะไปทนไหว
ถามจริง?
"ไม่ห้ามไม่ได้หรอ ทำไมต้องทำไม่ได้ด้วยล่ะ"
“...ก็...
ก็อังไม่ให้ทำ!” แดนดินที่ได้ฟังคำพูดห้ามนั้นอยากจะร้องเสียดายอยู่ในใจ
แต่คิดเหรอเข้าถ้ำเสือมาขนาดนี้แล้ว
เขาจะถอยออกไปง่ายๆ
คนตัวใหญ่ก้มลงเอาคางพาดเกยบนไหล่เล็ก
ค่อยๆเบียดแนบใบหน้าเข้ากับแก้มนิ่มที่ขึ้นสีแดงเรื่อหลังจากที่ใช้ปากให้เขา
ถึงจะผ่านเวลามาได้ครู่หนึ่งแต่ยังไม่ลดความก่ำแดงลงไปเลยแม้แต่นิด
แดนดินค่อยๆถูแก้มของตัวเองกับแก้มขาวนั้นเบาๆ พอให้คนที่ถูกสัมผัสเคลิบเคลิ้ม
“อัง...” น้ำเสียงของแดนดินเป็นเสมือนกลิ่นเมนทอลที่ไม่หวานไม่เย็นจนเกินไป
แต่กลับเซ็กซี่และมีเสน่ห์อย่างน่าเหลือเชื่อ
ลองคิดดูสิเมื่อยิ่งน้ำเสียงน่าฟังนั้นมาขานเรียกชื่อตัวเองเบาๆ อยู่ข้างหู
สอนแขนแกร่งก็กอดกระชับเราอยู่ด้านหลัง แค่นี้ก็เหมือนจะตายคาอกอยู่แล้ว
ใจแข็งหน่อยสิอัง
ใจ...
ใจละลายแล้ว
คนทั้งคู่ต่างเงียบและยืนกอดกันโดยมีเพียงเสียงลมหายใจรดกัน
แดนดินรวบกระชับแขนที่โอบกอดคนร่างบางเสียแน่น
สร้างความอบอุ่นและชื้นใจให้อังกอร์โอนอ่อน
ดวงตากลมก็หลับตาพริ้มลงดื่มด่ำไปกับกอดที่แสนอบอุ่นและอ่อนโยนนั้น
ก่อนที่คนตัวโตจะค่อยๆ ใช้ปลายจมูกไซร้หอมเข้าที่แก้มขาวเบาๆ
เพื่อเพิ่มความละมุนให้กับการกอดครั้งนี้
ที่ทำอย่างนั้นไม่ใช่ว่าแดนดินจะยอมหยุดอย่างที่อังต้องการ
แต่เป็นการใช้ความอ่อนนุ่มเข้าป้อนให้กับคนในอ้อมแขน
เพื่อหลอกล่อให้ตกในบ่วงภวังค์ที่เขาสร้าง
“อังครับ...จุ๊บ...อังคาร...” คนที่ผ่านประสบการณ์เรื่องบนเตียงมามากกว่าเอ่ยเรียกชื่อด้วยน้ำเสียงแผ่วที่ข้างหู
พูดมันทั้งใช้ริมฝีปากขบกัดใบหูเล็กเบาๆ ค่อยๆ ปลุกเย้าอารมณ์ของคนในอ้อมแขน
สิ่งที่แดนดินทำ
แดนดินไม่ได้คิดจะบังคับ
แต่เขากำลังควบคุมมากกว่า
“ฮื่อ...”
คนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมแขนก็ร้อนผ่าวขึ้น
หัวใจมันก็เต้นตุบๆ ไม่หยุด ยิ่งแดนดินใช้น้ำเสียงแบบนั้นมาเรียกชื่อของตัวเอง
แถมยังเป็นชื่อจริงๆ แบบที่ไม่ใช่ชื่อที่ปลอมตัวเข้ามา เสียงหวานๆ
นั้นปะปนไปพร้อมกับเสียงจุ๊บปากที่ค่อยไซร้ฟัดที่ข้างแก้ม ซอกคอ และต้นคอด้านหลัง
ร่างกายก็เหมือนถูกปลุกเร้าให้ร้อนผ่าวขึ้น
อังกอร์ที่ค่อนข้างสัมผัสไว
บวกกับที่เพิ่งจะใช้ปากให้แดนดิน มันไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้สึกอะไรเสียหน่อย
ได้จับได้สัมผัสของร้อนๆ มา เขาเองก็รู้สึกอยากมาตั้งแต่ตอนนั้น
แดนดินเองก็ไม่ได้หยุดแค่นั้น
หากแม้สองแขนของเขาจะไม่ได้ขยับออกไปจากช่วงเอวแต่ทั้งริมฝีปากร้อนๆ
ก็ยังคงทำงานกระตุ้นอารมณ์ต่อไป
ไม่พอคนร้ายกาจยังสอดต้นขาแข็งที่ไร้ซึ่งกางเกงปกปิดเข้ามาที่กลางหว่างขาของอังกอร์
แดนดินดันต้นขาเข้ากับส่วนกลางลำตัว ท่อนแก่นกายที่ยังแข็งก็เสียดบั้นท้ายกลมข้างหลัง
ทำเอาอังกอร์เสียวซ่านจนเก็บกักความอยากของตัวเองแทบไม่อยู่แล้วเช่นกัน
พอปลุกปั่นอารมณ์ได้ที่
แดนดินก็วอนขออีกครั้งตามที่ใจต้องการ
“อัง”
“....”
“แดน...ขอได้มั้ยคะ”
.
.
.
“อื้อ...”
ใครบ้างจะต้านไหว
แดนปลุกอารมณ์เสียร้อนไปหมดทั้งตัวขนาดนี้แล้ว
สุดท้ายก็ทำได้แค่ตัวอ่อนยวบอยู่ในอ้อมกอด
ให้คนที่ขอร้องสำเร็จช้อนตัวขึ้นอุ้มแล้วพากลับไปนอนบนเตียง
แดนดินขยับกายเข้ามาทาบทับจนเงาของร่างกายกลบทั้งตัว
แล้วจัดการประกบจูบลงบนปากได้รูป
ปลายลิ้นอุ่นก็สอดเข้าไปรับรสเฝื่อนของน้ำรักตัวเองที่ยังค้างอยู่ในปากของอีกคน
ยามที่กดปากจูบแล้วดูดเม้มมือข้างนึงก็ลูบไปตามเนื้อกายเบาๆ
ก่อนจะปลดเสื้อเชิ้ตของอังกอร์ให้พ้นตัว
ภาพของคนเนื้อตัวขาวแต่กลับแดงก่ำไปด้วยความเขินอาย
แดนดินที่ละริมฝีปากออกมา
หรี่ดวงตาให้ลงเพียงนิดแล้วจดจ้องเรือนร่างของคนที่ตัวเองรักราวกับชื่นชมงานศิลปะ
อัง
สวยกว่าที่คิด
ที่ผ่านมาแดนดินได้รู้จักและเห็นแต่คนตัวเล็กที่พยายามสวมบทบาทของอังกอร์
มองปราดภายนอกก็ดูไปทางหล่อเสียมากกว่าสวย
แต่ถึงยังไงก็ยังคงน่ารักน่าเอ็นดูในสายตาของเขาอยู่ดี
แล้วพอจนวันนี้เขากำลังจะได้เห็นตัวตนของอังคารที่ซ่อนอยู่ในมุมลึก
อดชื่นชมกับภาพสวยงามที่สะท้อนผ่านดวงตาตรงหน้าไม่ได้
แค่มองก็ทำเอาหลงมากขึ้นแล้ว
แต่มันไม่พอหรอก
แดนดินจึงก้มตัวลงเชยชมเรือนร่างนั้นด้วยริมฝีปาก ไล่สัมผัสเบาๆ
ตั้งแต่ซอกคอขาว กดจูบเบาๆ ที่ไหปลาร้าที่ขึ้นชัด
แล้วลากริมฝีปากตามเนินอกลงมาที่ช่วงท้องน้อย
“ฮื่อ..” สัมผัสอุ่นๆ
จากริมฝีปากก็ทำเอาอังกอร์ที่นอนอยู่ กระสันตัวขึ้นหน่อย แล้วยกมือเป็นกำปั้นไปกุมที่ริมฝีปากตัวเอง
หน้าก็บิดเพียงน้อย เพราะไม่เคยให้ใครแตะต้องเนื้อกายอย่างนี้มาก่อน
สายตาคมกริบในยามที่สัมผัสเนื้อกายแต่ยังคงเหลือบมามองจ้องคนถูกกระทำ
หากอังกอร์ได้เห็นมันเข้าก็คงดิ้นเป็นแน่ แต่ก็นั่นล่ะ... ไม่ดิ้นด้วยสายตา แต่กำลังจะดิ้นจากการกระทำอยู่ดี
เพราะเมื่อแดนดินใช้ลิ้นชโลมเลียแถวๆ
แผ่นอกบางสักพักคนข้างใต้ก็ต้องเปล่งเสียงครางอื้ออึงออกมา
เมื่อถูกริมฝีปากห่อเล็กเพื่อครอบกัดเข้าที่ยอดอก
“อ้า...แดน..
ฮื่อ...” ริมฝีปากร้อนเหมือนเหล็กลนไฟที่ดูดดึงเย้ากับส่วนอ่อนไหว
ก่อนจะกัดให้เสือน้อยหลุดครางออกมาเสียงหลงเพราะความเสียวซ่าน
ทำแบบนั้นสลับกับใช้ลิ้นสะกิดดุลเม็ดอกให้แข็งชัน
ดวงตาคู่คมที่วาวโรจน์ที่ทอดมองขึ้นเป็นพักก็สบประสานเข้ากับคนตัวเล็กที่ก้มมองลงมาพอ
และหากจะไม่ได้คิดไปเองริมฝีปากที่ใช้ดูดดึงกับส่วนอกนั้นกำลังยิ้มยกด้วยความพอใจ
ถ้าเขาเป็นเสือ
ก็คงเป็นลูกเสือตัวน้อยที่กำลังจะถูกนายพรานล่า
เพราะแค่ประสานตาเข้าด้วยกันหัวใจเต้นแทบระเบิด
คนถูกสัมผัสก็ทำได้แต่ครางเสียงสั่น
เมื่อแดนยังมอบสัมผัสหวามวาบให้กับเม็ดอกสองข้างสลับไปมา
กระทั่งมือใหญ่ปลดถอดกางเกงออกให้ก่อนจะก็สอดเข้าไปในกางเกงชั้นในเพื่อสัมผัสกับส่วนอ่อนไหวที่ทำให้ร่างทั้งร่างชาวาบ
“แฉะ...แล้วเหรอ”
แค่ทำไม่พอ
ยังจะใช้คำพูดมาแทะโลมให้เขินกันอีก
คนได้ฟังก็ขบกัดริมฝีปากตัวเองแน่น
อยากจะเถียงที่ถูกแทะโลมด้วยคำพูด
แต่ก็หนีความจริงที่ว่าส่วนอ่อนไหวของเขากำลังเปียกชุ่ม
จนได้แตะส่งกำปั้นเล็กไปทุบเบาๆ ที่ไหล่กว้าง ก่อนจะทิ้งมือวางข้างตัวออกแรงจิกกำผืนผ้าไว้เพียงนิดเมื่อถูก
ปลายนิ้วของแดนดินกดยีที่ส่วนปลายของมัน
พรึบ
กางเกงชั้นในก็ถูกปลดรั้งให้ลงไปกองอยู่ข้างเตียง
แดนดินก็ยกกายขึ้นหน่อยเพื่อขยับไปหยิบ
ขวดเจลที่เก็บเอาไว้ในลิ้นชักข้างเตียงออกมาแล้วบีบรดน้ำใสลงที่มือ
“ทำไมถึงมีของแบบนี้...” คำถามชวนสงสัยจากคนที่กำลังจะยอมเป็นของอีกฝ่าย
ทำเอาแดนดินถึงกับชะงักไปนิดแล้วหลุดยิ้มออกมา
เขาก้มลงหอมที่ข้างแก้มใสก่อนจะเอ่ยตอบไป
“ไม่พอใจเหรอคะ”
“....” ลูกแมวน้อยอยากจะตะโกนออกไปด้วยซ้ำว่า เออ! แต่พอมานึกย้อนดูดีๆ
แล้วแดนดินก็เป็นผู้ชายธรรมดาคนนึง
ไม่แปลกหรอกหากเขาจะเคยมีอะไรกับใครมาก่อนหน้าจะเจอตัวเอง
แต่มันก็ยังอดนึกหวงในใจไม่ได้
ฟอด
“แดนอาจจะเคยผ่านอะไรมาก็จริงนะครับอัง”
“...”
“แต่นับจากตอนนี้ไป
แดนจะมีแค่กับอังนะ...” แค่ถ้อยคำนั้นกับสัมผัสหอมแก้มเพียงเบาๆ
เพื่อสูดกลิ่นที่ไม่ได้ถูกเติมแต่งแต่กลับหอมจนชวนให้ดอมดม
การกระทำนั้นทำให้ใบหน้าหงึของอังกอร์หายไปหมดสิ้น
แถมยังอ้าแขนส่งไปหาเพื่อให้แดนดินรับไปกอด
อ้อนจังแฮะ
แล้วบทนายพรานขย้ำเสือก็ดำเนินต่อ
เมื่อยามถอนกอดอุ่นๆ จากกัน ฝ่ามือใหญ่ก็กำแล้วรูดรั้งไปตามความยาว
ทั้งยังกดจูบที่ปากแดงๆ ไม่ปล่อยให้ว่างจนเสียงจูบดังก้องไปทั่วทั้งห้องนอน เสียงครางอื้ออึงก็คลอดังจากในลำคอของคนที่เสียวซ่านไปทั้งตัว
“แดน
อื้อ...ยะ...อ๊า!” ปากพยายามจะพูดว่าอย่าทั้งยังเกร็งตัวรับ
ยามที่แดนดินใช้มือหนารูดรั้งส่วนกลางลำตัวแล้วกระตุกรูดให้
จากเดิมที่ก็เริ่มพองก็ขยายจนปริ่มน้ำ
“ฮื่ออ...อ๊ะ...”
สองขาถูกรั้งให้แยกกว้างออก
คนตัวโตกว่าก็ใช้มือใหญ่ที่ชโลมไปด้วยน้ำเจลถูด้านหลัง
ก่อนจะกดสอดเข้าไปในช่องทางคับแคบ ขยายทางเพื่อรองรับอย่างอื่นที่ใหญ่กว่านิ้ว
อีกมือก็ลูบไล้ตามเนื้อตัวเพื่อทุเลาความเจ็บแปลบที่ด้านหลัง
“อ้ะ...อ๊า......ฮื่อ...” คนไร้ประสบการณ์นิ่วหน้าหลับตาปี๋
เมื่อถูกกดสอดนิ้วเข้ามาข้างในด้านหลัง ทั้งส่งเสียงครางพร่าหอบหนักๆ
สะโพกถอยหนีมือหน่อยๆ อย่างไม่เคย มือเรียวเล็กก็กุมขยำผืนผ้าปูไว้เสียแน่น
“เสียวเหรอคะอัง...” แดนดินที่ยังคงใช้คำน่ารักที่เป็นเสมือนยาพิษที่พร้อมจะฆ่าคนฟังให้ตาย
อังกอร์ไม่ได้พูดตอบอะไร หากแต่ดิ้นพล่านกับนิ้วมือที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น
เพราะทั้งกวาดทั้งวนนิ้วในช่องทางสดใหม่นั้นให้ขยับขยายจนได้ที่
“อึก...
ไม่...ต้องมาถาม...ฮื่อ.....ไม่ต้องมาถามเลย...อ๊าา”
ภาพของอังกอร์ที่บิดเร้าเพราะน้ำมือปลุกปั่นอารมณ์ของแดนดินที่ประทุอยู่แล้วให้โถมมากยิ่งขึ้นจนถอดนิ้วออกมาแล้วขยับไปทาบทับกายของร่างบางอีกครั้ง
แล้วจับแก่นกายแข็งใหญ่ของตัวเองไปเบียดเสียดกับช่องทางที่ชื้นแฉะ
“....”
อังกอร์ที่นอนอ้าขาออกกว้าง
เหลือบสายตาลงมามองคนที่หยุดการกระทำไปเพียงครู่ก็เห็นแล้วว่าแดนดินหันไปหยิบถุงยางมา
แล้วทำไมแค่ผู้ชายคนนั้นใช้ปากกัดฉีกถุงยางออกและจัดสวมใส่ถุงยางเข้ากับท่อนแก่นกายแข็งใหญ่ที่กลางลำตัว
หัวใจมันก็สั่น ความร้อนในกายก็วาบหวามขึ้นลุกลามไปที่แก้ม
โอ๊ย
แดนฮอตมากๆ
ฮื่อ
“อย่าเกร็งนะคะอัง”
สิ้นคำบอกนั้นคนตัวสูงก็กดส่วนร้อนกลางลำตัวเข้าไปในช่องทางที่เตรียมไว้
หากแต่เพราะมันไม่เคยถูกใช้งานมาก่อน ก็ทำให้ยังคับแคบ
คนถูกสอดใส่ก็เจ็บแปลบไปทั้งตัวจนหน้าบิดเบี้ยว คนที่สอดมันเข้าไปก็หลุดสบถคำด่าออกมาอย่างชอบใจที่มันบีบรัดของเขาเสียตั้งแต่ยังไม่ขยับ
สวบ
“อ๊าาาาาา!!” อังกอร์หลุดเสียงครางหนักออกมา
สะดุ้งกายขึ้นนิดเมื่อถูกกดสอดแก่นกายเข้ามาจนสุดด้าม ขนาดของมันไม่ใช่น้อยๆ
จนรู้สึกจุกแปลบขึ้นมาที่ท้อง
“อย่าเกร็งครับอัง...
แดนจะค่อยๆนะ...อืมนั่นล่ะ....” แดนดินที่เห็นแล้วว่าเสือน้อยที่ตัวก่ำแดงตรงหน้าอาจจะกำลังตื่นกลัวกับสิ่งแปลกใหม่
ส่งมือหนาไปลูบผมให้เบาๆ พอให้ทุเลาความกลัวสักพัก
เขาก็เริ่มขยับท่อนเนื้อแข็งเข้าออกทีละช้าๆ
“ดะ...แดน...มะ.. ฮื่อ...สะ...เจ็บ... อึก...” เพียงแค่แก่นกายใหญ่เริ่มขยับเข้าออกในช่องทางคับแคบ
คนตัวเล็กก็ครางลั่นไม่เป็นภาษา สองมือป่ายปัดไปผ้าปูที่นอน
คว้าอะไรได้ก็หยิบกำมาจิกนิ้วลงไป น้ำตาใสไหลพ้นขอบตาลงมาอาบแก้ม
จากความเสียวสะท้านที่แล่นปราดไปทั้งกาย
ความคับแน่นที่ตอดรัดส่วนนั้นจนแทบขยับตัวไม่ได้
หยิบเจลลงมาเทราดรดเพิ่มความลื่นให้กับมันแล้วสอดเข้าไปอีกจนสุดก่อนจะขยับให้เร็วมากขึ้นกว่าครั้งแรก
เสียงครางหวานหูก็ดังเป็นระวิงน่าฟัง อังกอร์แดงก่ำไปทั้งใบหน้า ใบหูและร่างกาย
เหงื่อก็ไหลชื้นอาบตัวจนสะท้อนความขาวให้น่ามอง
ช่วงสะโพกก็รับงานหนักคนจนเจ็บแปลบไปหมด
“ไหวมั้ยคะ....อา...”
ฟรึ่บ
“อ๊า!
...อ๊ะ.....อื้ออ ”
เสียงครางทั้งคู่ดังผสานกัน
อังกอร์น่ะร้องจนเสียงหลงส่วนแดนดินก็คำรามในลำคอ
ร่างก็ขยับโยกเป็นจังหวะที่หนักและแรงขึ้นทุกครั้งที่ขยับ จนคนตัวเล็กต้องเชิดหน้าขึ้นสูง
เนื้อตัวสั่นระริก ทั้งที่ช่องทางอุ่นด้านล่างกำลังตอดรัดเสียแน่น
“ฮื่ออ...อีก...
เอาอีก...” เสียงร้องขอนั้นออกจากปากของอังกอร์อย่างลืมอาย
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาเองก็ปรารถนาแดนดินมานานมากแล้วเช่นกัน
“แบบนี้เหรอคะ...”
“ฮื่ออ...
อ๊ะ... ตรงนั้น... “
พรึบๆ
“ฮื่อ...เสียว...แดน...อ้ะ...” ร่างเพรียวบางได้แต่ร้องเสียงสั่น
เมื่อแท่งไฟร้อนระอุกำลังเคลื่อนไหวในกาย ใบหน้าที่ชื้นเหงื่อบวกกับแก้มแดงๆ
แดนดินจดจ้องใบหน้านั้นเอาไว้ด้วยสายตาคม
ยิ่งปลุกปั่นจนทำให้เขาคลุ้มคลั่งขึ้นกว่าเดิม
จากแดนดินที่อ่อนโยนก็ค่อยๆ
แปรเปลี่ยนเป็นสัตว์ป่ามากขึ้น
ฉายา
แดนเอวดุ
ที่ไม่ได้เป็นแค่คำคุย
ก็แผลงฤทธิ์เอาวันนี้
“อึ้ก...อ๊า...แดน...เจ็บ...อ๊า!” อังกอร์ถึงกับดิ้นพราดเมื่อถูกแรงกระแทกอย่างหนักจากคนตัวโต
อีกทั้งแก่นกายใหญ่ยังดันเข้าถูกที่จุดเสียว น้ำตาก็ไหลอาบแก้มใส
คนที่อดกลั้นความอยากในตัวไม่ไหวก็ปล่อยให้ตัวเองขาดการควบคุม
เขาขบกรามแน่นและยังดันสอดแก่นกายเข้าไปลึก ถี่แรง
สายตาจ้องมองเพียงใบหน้าน่ารักที่เวลานี้น่าเอาเสียจนเหมือนเป็นการราดน้ำมันลงบนกองเพลิง
สะโพกสอบก็เคลื่อนกายแรงขึ้น ยามที่ส่งมือไปแบะก้นนุ่ม ให้สอดกายเข้าไปลึกกว่าเดิม
คนข้างใต้ที่ต้องรับแรงกระแทกหนัก
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็โยกขยับสะโพกสวนรับท่อนเนื้อนั้นไป
และการกระทำนั้นก็ยิ่งเหมือนเอาน้ำมันไปราดบนเปลวเพลิง
“อืม....อังคะ...
อาห์.... ดีมาก”
เหงื่อเม็ดใหญ่ยิ่งไหลอาบกายคนทั้งคู่ แดนดินใช้แขนแกร่งโอบอุ้มคนตัวบางเข้ามากอดไว้
จับแขนเรียวให้โอบจับไว้กับบ่า
ก่อนจะดันกระแทกแก่นกายเข้าไปให้หนักและรุนแรงกว่าเดิม
ความเร็วของการขยับก็ถี่รัวมากขึ้น
จนคนในอ้อมกอดได้แต่ปล่อยเสียงครางอื้ออึงให้ก้องสนั่นห้องนอน
“อึก...อ๊า...อ๊ะ...ฮื่ออ...”
“แบบนั้นครับ
...อาห์... เด็กดี”
คนที่คุมเกมเสมือนสอนวิธีการไปในท่วงจังหวะของการเข้าออก
ความรุนแรงที่มากขึ้นตามแรงตอดรัดจากช่องทางร้อนระอุของคนตัวเล็ก กิจกรรมร้อนๆ
ดำเนินไปโดยใช้เวลานานมากจนกระทั่งอังกอร์เริ่มอ่อนแรง แต่ก็ยังคงกลั้นฝืนกายสู้แรงกระแทกด้านหลังที่ไม่ได้ดูเบาแรงลง
ซ้ำยังหนักมากขึ้นทุกครั้งที่กดสอด
กึกๆๆๆ
แรงขยับหนักหน่วงจนเตียงของคอนโดที่ว่าจัดทำอย่างดียังมีเสียงพอให้รู้ความแรงของมัน
คนข้างใต้ได้แต่ไหวกายโยกรับกับส่วนใหญ่โตที่ดุดันภายในช่วงล่าง
ทั้งสาดแรงและความเร็วมาให้รู้สึกเจ็บแปลบไปหมด
แต่เหนือความรู้สึกเจ็บก็คือความรู้สึกเสียวจนแทบคลั่ง
"อืม....แน่น...แน่น
อาห์"
"อื๊อ!
อ๊ะ....อ๊ะ.... ฮ้า...."
ผ่านเวลาไปนานพอดู
แดนดินขบกรามแน่นทั้งคำรามลั่นเสียงต่ำ สองมือจับสะโพกเล็กเอาไว้มั่น
ยามที่ขยับกายถี่ยิบ ปลดปล่อยทุกความต้องการเข้าไปในช่องทางคับแคบ ด้วยแรงกระแทกอย่างหนักบวกกับช่องทางคับแน่นทำให้ถุงยางที่สวมขาด น้ำรักสีขาวก็รั่วไหลเลอะออกมายันเรียวขาขาว
“แฮก....แฮก....”
เมื่อความต้องการแรกที่ปลดปล่อยไปเสียงหอบหายใจก็ถูกถอนออกมาพร่า
อังกอร์โล่งใจไปเปราะที่ครั้งแรกของเขามันไม่ได้โหดร้ายอย่างที่ใจก็เคยกังวลแม้จะเจ็บจนร้าวไปทั้งร่างแล้วก็ตามที
ทว่า
.
.
.
น้ำแรกที่เสียไปตอนโดนลงโทษ
น้ำที่สองที่เพิ่งปลดปล่อย
ใครว่าแดนดินจะหมดแรงแค่นี้ล่ะ :)
“ทำหน้าแบบนั้นทำไมหื้ม...”
“แดนไม่จบแค่รอบเดียวหรอกนะอัง”
“อ๊ะ...ตะ...แต่...”
“กล้ามาท้าทายแดน
ก็ต้องรับผิดชอบแบบนี้ล่ะครับ”
“ฮื่ออ...
อื้อ...”
แล้วบทรักร้อนนายพรานล่าเสือน้อยก็ดำเนินต่อไป จนถึงเช้าของอีกวัน
เพราะกว่าแดนดินจะหมดน้ำรักที่เก็บกลั้นมานาน อังกอร์ก็สลบคาอกไปเสียแล้ว
Tbc.
ฝาก tag
# เสือ ซ่อน ลิป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น