วันอังคารที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2561

Do you know Angkor cut (25)






อ่านตอนที่ 25 ครึ่งบนในจอยลดา #เสือซ่อนลิป มาก่อนนะคะ


Do you know Angkor cut (25)


ANGKOR PART


            ปล่อย!!!


            แม้จะอ้าปากด่าไล่เท่าไหร่ แดนก็ไม่ฟังสิ่งที่ผมพูดเลยสักนิด กลับขยับตามมาดึงผมไปกอดซะทุกครั้ง จนผมแทบจะวิ่งหนีรอบโต๊ะอาหารในครัวอยู่แล้ว 

            นอกจากจะดึงไปกอดเสียจนแน่นเพื่อรั้งไม่ให้ผมขยับหนีไปไหน เขาก็ยังดึงผมไปจูบปิดปากอีกครั้ง เพื่อไม่ให้ผมได้ปริปากว่าอะไรเขาได้อีก บางครั้งผมก็รู้สึกเสียเปรียบเกินไป ผมไม่ได้อยากจะง่ายให้เขาแตะต้องตัวได้ง่ายๆ นะ แต่มันแพ้กันทั้งแรงทั้งใจมาแต่แรกแล้ว


ผมจะสู้เขายังไงดี


จะหนีจากสายตาเจ้าเล่ห์ของคนที่พยายามง้อคนนี้ยังไง



อังจะกลับ...



อังอยากให้เราประชดแบบนี้ต่อไปนานๆจริงหรอครับ



 อ้อมแขนของเขารวบกอดเข้าที่เอวสอบของผมอีกครั้ง คราวนี้แดนมากอดผมจากข้างหลัง คางก็เอามาวางพาดไว้ที่เนินไหล่ แล้วเอ่ยถามผมด้วยน้ำเสียงที่ทำให้ผมเกือบจะหลุดใจอ่อนไหวตามไปกับเขา



แดนผิดไปแล้วจริงๆ ขอโทษที่ไม่ได้ฟัง แต่แบดกายกับพวกแดนก็มีเรื่องมานานแล้วจริงๆ อังก็น่าจะรู้ว่ามันยากที่จะหยุด




แต่แดนก็ถอยได้...



ถอยครั้งนี้ ก็ยังมีครั้งหน้า เรื่องมันไม่เคยเกิดขึ้นเพราะพวกแดนสักครั้ง มีแต่เพื่อนอังที่หาเรื่องก่อนทั้งนั้น



“.....”



ผมได้แต่เม้มปากเข้าหากัน จะเถียงยังไงให้ชนะดีล่ะ ในเมื่อเหตุผลของเขามันก็คือความจริง ความจริงที่ว่าพวกแดนดินไม่เคยหาเรื่องก่อน เขาก็แค่สู้เพราะถูกอีกฝ่ายมาหาเรื่องก่อนเท่านั้น



แต่อังห่วง แล้วแบบนี้จะต้องเจ็บตัวกันไปอีกนานเท่าไหร่” 


ใช่แล้วมันจะต้องเกิดเหตุการณ์วิวาทแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่ จะต้องเจ็บตัวกันอีกสักแค่ไหนถึงจะมีคนหยุด


แล้วผมก็ทำได้แค่ห่วงแบบนี้ต่อไปใช่มั้ย


มันเจ็บนะ


ที่ต้องมองบาดแผลของเขา


แต่ทำอะไรไม่ได้เลย




แดนก็ตอบไม่ได้



“...”



แต่ตอนนี้แดนอยากให้เราคุยกันดีๆนะครับ ไม่อยากให้อังโกรธ ไม่อยากให้อังเสียใจแดนพูดออกมาอย่างนั้นก่อนที่จะคลายกอดที่ด้านหลังออก



เขาขยับเดินมาหยุดที่ตรงหน้าผม แล้วจับเอามือของผมไปกอดเข้าที่เอวของเขาแทน ก่อนที่แดนจะโน้มศรีษะของตัวเองมาใกล้ๆใบหน้าของผม เข้าแตะหน้าผากของตัวเองเข้ากับหน้าผากผมเบาๆ แล้วค้างไว้อย่างนั้น 



ตึกตัก...ตึกตัก...


ดวงตาของเราประสานกันในระยะที่ใกล้กันเหลือเกิน หัวใจของผมก็เต้นแรงจนได้ยินเสียง ลมหายใจของเรากำลังดังคล้องกันด้วยความใกล้ชิด แต่ผมก็ไม่อาจจะขยับหรือละสายตาออกไปจากเขาได้เลย





อัง...



“....”



ดีกันนะ



เขาพูดแบบนั้นในขณะที่หน้าผากของเราก็แตะผสานกัน



อื้อ



            แพ้อีกแล้ว 


            จะมีตอนไหนสักตอนไหมที่ผมไม่ยอมให้เขาง่ายๆ ทำไมคำตอบมันก็คือไม่มีร้อยเปอร์เซ็นต์แบบนี้นะ แจนจะต้องดุผมอีกแน่ๆเลยที่ยอมเขาแบบนี้ ผมควรใจแข็งให้มากกว่านี้ แต่ทำไมมันถึงได้ยากจัง



แล้วทันที่ผมขานตอบยอมดีกับแดนไป แดนก็อมยิ้มหน่อยที่ปากตัวเอง ก่อนจะกดริมฝีปากที่ชวนหลงใหลนั่นประทับลงที่หน้าผากของผมเบาๆ ผมได้แต่หลับตาพริ้มเมื่อถูกสัมผัสที่อ่อนโยนนั่นแตะลงบนใบหน้า แดนไม่หยุดทำเพียงแค่นั้นเขากลับพรหมจูบริมฝีปากระตั้งแต่หน้าผากลงมาที่ข้างแก้มของผม



จะ...จะทำอะไร



ผมถามเขาออกไปด้วยความตกใจ เมื่อแดนไม่ได้หยุดการกระทำลง แถมทวีคูณให้มากขึ้นและมากขึ้น จนตอนนี้เขาดันต้นขาแกร่งของตัวเองเข้ามาที่กลางหว่างขาของผม แถมดันให้ตัวของผมหันหลังเข้าไปชนกับโต๊ะทานข้าวในครัว 



“ 😊 ”



ไอ้หมาตัวร้ายไม่ได้ตอบคำอะไรของผมอีก แถมยังเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะส่งรอยยิ้มร้ายกาจมาให้ เขากดปลายจมูกลงมาฟัดหอมผมรุนแรงขึ้นที่แก้ม พรหมสัมผัสหอมหวานอยู่ได้สักพัก ก็ไล้ลงมาที่ซอกคอ ให้ผมได้เสียวกายไปวูบนึง 

แล้วแดนก็ทำสิ่งที่ทำให้ผมต้องอ้าปากค้างกลางอากาศอีกครั้ง เพราะเขาใช้สองแขนสอดเข้ามาที่เอวของผมแล้วจัดการยกให้ผมขึ้นไปนั่งบนโต๊ะทานอาหาร แดนดินขยับเข้ามายืนอยู่ตรงหว่างขาของผมที่ทิ้งลงกับขอบโต๊ะ และไม่ทันที่ผมจะได้ประท้วงอะไรเขาก็ครอบครองริมฝีปากของผมเสียแล้ว


จะจูบปิดปากทุกครั้งไม่ให้พูดอะไรเลยหรอไง ฮืออ



อื้อ...จุ๊บ... ฮื่ออ...



เสียงจูบของเราดังสะท้อนในครัวอย่างน่าอาย ริมฝีปากของแดนกำลังทำให้ผมร้อนผ่าวไปทั้งกายเพียงแค่เขาบดเม้มริมฝีปากนั้นแล้วบรรจงสัมผัสเน้นจนเคลิ้ม ซึ่งผมเองก็ไม่ได้ยอมง่ายๆ ถึงผมจะไร้ประสบการณ์แต่ผมก็ศึกษามาบ้างทั้งอินเตอร์เน็ตและแน่นอนผมก็มีสัญชาตญาณผู้ชายที่อยากรู้อยากลองในตัวเองเหมือนกัน


เราแลกสัมผัสกันผ่านปลายลิ้นร้อนอยู่เนิ่นนาน จนผมเองที่เป็นฝ่ายเริ่มหายใจไม่ออก ถ้าจะเทียบกันแล้วผมมันก็แค่ลูกแมวหัดเดินในอ้อมอกของเสืออย่างเขา ผมผลักอกแกร่งของแดนให้ห่างออกไปจากตัวก่อนที่จะก้มหน้างุดแล้วใช้มือแตะเข้าที่ริมฝีปากที่ถูกจูบเสียจนช้ำเจ่อ



ดะ...แดน



ผมนึกว่าเขาจะหยุด


แต่แดนไม่ได้แค่จะจูบผม...


เขากำลังทำมากกว่านั้นแล้ว!



หลังจากที่เราจูบกันเสร็จ เขาก็พาดแขนเข้ามาที่ข้างตัวของผม ก่อนที่จะกดจูบเข้ากับปากของผมอีกครั้งโดยที่ไม่ให้โอกาสตั้งตัว และครั้งนี้ไม่ใช่แค่จูบอย่างที่ผ่านมาตลอดตั้งแต่เราเริ่มคุยกัน แดนกำลังสอดมือของเขาเข้ามาใต้เสื้อของผมทีละนิด



แดนอย่า!



ผมร้องปรามออกไปทันทีที่เขาสอดมือเข้ามาลึกและกำลังลูบมือไล้ไปกับแผ่นอก  ถึงแม้ว่าผมจะต้องการเขามากขนาดไหนก็ตาม แต่ในเมื่อเรายังเป็นแค่คนคุยกัน ซ้ำก็ยังมีอีกหลายเรื่องให้คิด ผมยังไม่พร้อมที่จะเป็นของเขาในตอนนี้เลย



 อึ้ก...”



            แต่แล้ว ผมก็สะดุ้ง เพียงเพราะเขากดปลายนิ้วคลึงกับยอดอกของผม แดนลูบสัมผัสมันอย่างแผ่วเบาทั้งยีทั้งคลึง จนผมรู้สึกได้ว่ามันกำลังแข็งชันขึ้น ผมนิ่วหน้าไปนิดรู้สึกดีกับสัมผัสจากปลายนิ้วที่แตะแต้มบนยอดอกตัวเอง




ไม่ได้สิ



เราจะยอมแดนแบบนี้ไม่ได้




แดน..พอ...พอแล้ว อังยังไม่พร้อมนะ.. ฮื่อ...



ขอนิดนึงนะครับ..” 


เขาไม่ได้สนคำวอนขอร้องของผมเลยแม้แต่นิด แดนกำลังประคองกอดตัวของผมที่นั่งอยู่บนโต๊ะไว้ แล้วจัดการถอดเสื้อของผมออกไปจากตัวก่อนที่จะกดริมฝีปากลงกับยอดออกที่ถูกเขาบีบจับไว้



แดนจดจ้องสายตาไล่มองที่ร่างกายของผมจนหน้าผมร้อนวูบขึ้นที่แก้ม



จะ..จะมองอะไรขนาดนั้นนะ


รู้มั้ยเนี่ยว่าเขินเป็น



และเพียงแค่ลมหายใจของแดนผ่าวรดโดนยอดอกร่างของผมก็สั่นอีกครั้ง ส่วนจุกน่ารักของผมที่ไม่เคยถูกสัมผัสร้อนชื้นจากลิ้นมาก่อน แค่แตะเบาๆแล้วเลียก็เป็นความรู้สึกที่ทั้งแปลกและดี ปะปนกันจนหัวของผมเริ่มขาวโพลนไปหมด




อื้อ.....ฮ้า” 


ผมปล่อยเสียงครางออกมาทุกครั้งที่เสียวกระสัน มันทั้งร้อนทั้งชื้นแต่ก็เสียว แดนไม่ได้หยอกล้อแค่เพียงเม็ดอกสีสดของผม หากแต่ยังส่งมือลูบปลุกเร้าตามเนื้อกายให้ด้วย จนช่วงล่างของผมเองก็เหมือนถูกกระตุ้นตามจนเริ่มปวดหนึบใต้กางเกงขึ้นมาหน่อยๆ 



แดน...อังว่ามัน...


ผมพยายามดันหัวของเขาให้ห่างออกไปแล้วแต่มีหรือที่ผมจะสู้แรงเขาไหว แดนไม่ฟังซ้ำยังจับตรึงข้อมือของผมเอาไว้ ก่อนจะผลักให้ผมล้มไปนอนกับโต๊ะอาหาร ส่วนคนตัวโตกว่าก็ขยับตามมาทาบทับกายของผมแล้วใช้ปากพรหมจูบย้ำๆ ไปตามร่างกายให้ผมได้แต่บิดเร้าไปมากับสัมผัสนั้น



มันเสียวชะมัด..



ผมก็แค่เด็กอนุบาลที่เพิ่งจะได้ลิ้มลองการถูกเนื้อต้องตัวแบบนี้ หัวใจก็เต้นตุบๆ จนแทบจะหลุดออกมานอกอก แดนยังคงไซร้ปากสลับกับปลายจมูกไปตามกายของผม ราวกับกำลังเชยชมเรือนร่างด้วยริมฝีปากนั้น ก่อนที่เขาจะหยุดมันอยู่ที่เอว



แดน...เจ็บ...ทำอะไรน่ะแดนกดสัมผัสจูบลงที่ท้องส่วนนั้นแรงกว่าครั้งอื่นเขาทั้งดูดเม้มมันเสียแรงจนผมรู้สึกแปลบๆ ราวกับถูกมดกัด และไม่เพียงแค่ใช้ปากสัมผัส แดนก็ยังคงขบฟันลงกัดซ้ำๆ อีกด้วย




ทำรอยครับเขาตอบไปในขณะที่ก็ยังกำลังตั้งใจจูบหน้าท้องของผมอยู่ เสียงดังจ๊วบจากปากของเขาทำเอาผมใจสะท้านไปหลายรอบ




ฮื่ออ ทำรอยทำไม



ถะ...ถูกทำรอยรักด้วย งื้อ



ก็ถ้าเสื้ออังดันไปเลิกขึ้นที่ไหนอีก คนจะได้รู้ไงว่ามีเจ้าของ



อื้ออ... ใครจะมามองหน้าท้องอังเล่า



ผมประท้วงเถียงเขาไปอย่างนั้น แต่จะไม่บอกแดนเด็ดขาดเลยว่าสมัยก่อนตอนเรียนที่เก่า ผมน่ะฮอตขนาดไหน แล้วการถูกทำรอยรักไว้บนตัวก็เป็นอะไรที่ทำเอาผมทั้งเขินทั้งดีใจไปหมด นั่นมันหมายถึงว่าแดนกำลังพอใจในตัวผมมากเลยใช่มั้ย ไม่อย่างนั้นเขาก็คงไม่ทำหรอก



เป็นรอยแดงสามจุดเหมือนดาวที่แก้มอังเลยนะครับ” 

เขาขยับมากระซิบเสียงเซ็กซี่ที่ข้างใบหู ในขณะที่มือก็ลากลูบที่ช่วงท้องส่วนที่เขาแต้มรอยช้ำเอาไว้ แดนจิ้มนิ้วเบาๆที่รอยรักจุดแรกแล้วยังจุ๊บเข้าที่จุดดาวบนแก้มของผมทีละจุดเบาๆ  การกระทำทั้งหมดนั้นแทบจะทำให้ผมเป็นบ้า สติก็หลุดลอยเข้าไปในมนต์ของแดนไม่รู้รอบที่เท่าไหร่ ร่างกายก็อ่อนยวบจนแทบสลาย



ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป



ชิบหายแน่...



เราต้องยอมเขาแน่ๆ



            ฮือออ



ทำไงดีอังคารเอ้ย



ไม่ทันจะหมดความคิดล่วงหน้า แล้วมันก็เกิดอย่างนั้นจริงๆ เพราะแดนกำลังใช้มือของเขาซุกซนเข้ามาที่ตรงหว่างขาของผม ส่วนนั้นกำลังเริ่มตื่นเมื่อยามที่ถูกปลุกเร้า เขาใช้มือลูบไปทั่วบนเป้ากางเกงที่ยังถูกปกคลุมด้วยกางเกง แต่บอกตรงๆ ว่าตอนนี้ผมเหมือนจะเป็นบ้าผมไม่เคยถูกจับและสัมผัสแบบนี้มาก่อน แม้จะยังมีกางเกงอยู่ก็ตาม แต่ผมกลับรู้สึกเสียววาบไปทั้งตัว จนต้องกำหมัดแน่น



ไม่นะเว้ยย... 


แล้วสิ่งที่ผมไม่อยากให้เกิดขึ้นมันก็กำลังจะเกิดขึ้นแล้วจริงๆ เมื่อแดนดินจัดการปลดกางเกงของผมให้ออกไปจากขาแล้ว




อึ้ก...



เฮือก


            ผมสะดุ้งเฮือกสุดตัว มือที่กำลังจะผลักร่างของแดนออกไปก็เป็นอันชะงัก ได้แต่กำจิกมือกลมแล้ววางมันลงข้างตัว ใบหน้าก็เชิดขึ้นมองเพดาน น้ำตาก็ไหลล้นออกมาที่ขอบตาน้อยๆ เพราะความเสียวซ่าน เมื่อลิ้นของแดนมันกำลังเลียเข้าส่วนอ่อนไหวใต้ชั้นในที่ยังคงกึ่งถอดกึ่งคาอยู่กับตัว เขาใช้ปลายลิ้นเลียเบาๆ สลับกับใช้ปากครอบงับเข้าราวกับกำลังหยอกล้อให้ผมดิ้นเพราะสัมผัสนั้น



ร้าย... ร้ายจริงๆด้วย

แดนดินร้ายกาจมากเกินไปแล้ว



แดน... จะทำอังจริงๆเหรอ.. ฮื้อ...” ผมพยายามรั้งสติของตัวเองไว้ ร่างกายก็สั่นหน่อยๆ ด้วยความที่ไม่เคย ผมค่อยๆยกตัวเองขึ้นเพื่อมองคนที่กดก้มใช้ปากเล่นกับส่วนร้อนผ่าวของตัวเองด้านล่าง และเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา


           ไม่ทำ...ได้มั้ย...


ปากพูดห้ามเขาไปอย่างนั้น แต่ร่างกายของผมมันกลับทรยศตัวเอง ผมรู้ตัวดีว่าควรหนี  ควรจะผลักเขาให้แรงที่สุด แต่ผมกลับอ่อนยวบไปหมดแถมยังปล่อยให้เขาจัดการได้ตามใจแบบนี้



ถ้าแจนรู้...


แจนจะต้องด่าผมแน่ๆเลย



 เฮือก!


            อึ้ก! หยุดนะ...


            ทว่า แดนดินก็ยังคงไม่ฟัง นอกจากจะไม่หยุดแล้ว เขาก็ยังคงปาดลิ้นเลียดุลเล่นกับของของผมให้หนักมากขึ้นไปอีก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองจ้องหน้าผม แล้วเปลี่ยนไปใช้มือขยำคลึงเข้ากับส่วนกลางตัว แดนกำและบีบขยำมันเข้าในมือเขาเพื่อปลุกปั้นอารมณ์วาบหวามที่แทบจะขาดใจ ให้ผมได้แต่นิ่วหน้ากระสันตัว ร่างของผมมันก็สั่นระริกกับสัมผัสนั้น



          ผลักแดนสิวะ ห้ามแดนไปสิ!


 โอ้ย..


ทำไมมันเสียวขนาดนี้ ฮือ


            สองความคิดกำลังตีกันในหัว แต่ร่างกายก็ไม่สามารถจะขัดขืนเขาเลยแม้แต่นิดได้แต่กำจิกมือลงกับโต๊ะอาหารแล้วเปล่งเสียงครางให้ลอดออกมา แม้จะพยายามเม้มปากกลั้นเสียงแค่ไหนก็ตาม ร่างกายก็ไหวสั่นเพราะอารมณ์ใคร่ที่ถูกเร้าเร่งด้วยมือของคนที่ทำให้ใจเต้นแทบบ้าตรงหน้า



            อ๊า...อือ...พอ พอนะแดน 



นะแดน อังขอร้อง... 



ผมพยายามกลั้นใจแล้วพูดขอร้องให้เขาหยุดก่อนที่อารมณ์มันจะเตลิดไปไกลกว่านี้ 


ก่อนที่มันจะไกลเกินกว่าจะหยุดได้



            และเหมือนคำขอของผมกำลังจะส่งไปถึงแดน เพราะจู่ๆ เขาก็หยุดนิ่งไปไม่ต่างอะไรกับหุ่นยนต์ เขานิ่งไปสักพักใหญ่จนผมยันกายลุกจากโต๊ะอาหารขึ้นมามอง



          หยุดทำไมวะกำลังเสียว



เอ้ย...


หยุดก็ดีแล้วสิ!!




ผมล่ะอยากจะทุบหัวตัวเองแรงๆ ที่ดันคิดไม่ดีกับตัวเองแบบนั้น เราจะปล่อยตัวให้แดนไปมากกว่านี้ไม่ได้ ทั้งแจนทั้งเพื่อนคนอื่นๆ ก็คอยเตือนอยู่ตลอด แต่อีกใจผมก็อยากรู้ว่าทำไมแดนถึงได้ไม่ทำต่อเหมือนกัน





 แดน...ผมขานเรียกเขาที่ชะงักทุกการกระทำลงไปเสียดื้อๆ ก่อนจะขยับยันตัวเองให้ลุกขึ้นมานั่งแล้วเอียงคอมองถามอีกฝ่าย ผมแอบเห็นสีหน้าของแดนดูกังวลกับอะไรบางอย่าง




เป็นอะไรหรือเปล่า..




                ขอโทษนะครับอังเขาที่ได้ยินเสียงเรียกของผมเงยหน้าขึ้นแล้วส่งแขนเข้ามารวบกอดผมเข้ากับอก แดนกอดผมเสียแน่นแล้วเอาแต่พูดคำนั้นซ้ำๆ



         ขอโทษที่แตะต้องอังขนาดนี้นะครับ...” 

         
           แดนดูหน้าเจื่อนผิดปกติไปเลยหลังจากที่ผละออกจากผมแถมยังกอดตัวผมเอาไว้เสียแน่นอีกต่างหาก ผมแอบตกใจแล้วก็กังวลว่าจู่ๆ เขาเป็นอะไรไป แต่ก็มาเข้าใจถึงเหตุผลที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้หลังจากถ้อยคำต่อมา



                อื้อ..



                แดนจะไม่ทำมากกว่านี้แล้วล่ะครับแดนเอ่ยพูดทั้งช่วยจัดการสวมเสื้อผ้าให้กับผมคืนดังเดิม อย่างน้อยเขาก็น่ารักนะที่รู้จักถอดแล้วใส่คืนให้



                ที่แดนหยุดเพราะอะไร



                “....”



                เพราะเกรงใจอังเหรอผมเป็นฝ่ายเอ่ยปากถามไปตามตรงเมื่อแดนไม่ได้ตอบ ผมกอดเขาเอาไว้แน่นหน้าก็แนบชิดซบเข้าที่อกหนาของเขา



            อื้อ.. ครับ แดนอยากให้เกียรติอัง อยากถนอมอัง แต่ดันเผลอตัวไป... ขอโทษนะครับ



             แล้วแดนก็ยอมตอบเหตุผลของเขาออกมา จนผมรู้สึกใจเต้นแล้วก็ดีใจยังไงชอบกล เขาอยากจะถนอมผมก็เลยได้หยุดทำต่อนี่เอง ถึงจะน้อยใจนิดๆ ที่เขาไม่สัมผัสผมต่อ แต่ผมก็ปลื้มใจมากกว่าที่เขาคิดแบบนี้



                มันรู้สึกดีชะมัด




                รู้สึกดีที่แดนอยากให้เกียรติผม



                อังไม่โกรธแดนใช่ไหม



                ไม่เป็นไร... อังดีใจนะที่แดนให้เกียรติอัง จริงๆ อังก็ยังไม่พร้อมด้วย...แบบนี้ก็ดีแล้วล่ะ”    



                ขอโทษนะครับ...



               ผมไม่รู้เลยว่าทำไมแดนจะต้องทำหน้าเครียดกังวลขนาดนั้น แต่ถ้าสิ่งที่เขากังวลคือเรื่องที่เขาล่วงเกินผมมากไป ผมก็โคตรจะรู้สึกดีเลยล่ะ




                ไม่ต้องขอโทษแล้ว จะขอโทษอะไรขนาดนั้นล่ะ” 


                "ครับ"  ถึงจะตอบผมมาแบบนั้น แต่เขายังคงพูดคำขอโทษไม่หยุดหย่อนจนผมงงไปหมด แต่สิ่งที่ทำได้ก็แค่เพียงกอดเขาเอาไว้แน่นๆ แล้วลูบหลังให้เบาๆ เพื่อคลายสิ่งที่เขากังวลอยู่ให้หายไป







ได้โปรดใจเย็นๆ ที่เขายังไม่ได้กันนะคะ T_T 

กลับไปอ่านต่อที่ตอน 25 ในจอยลดานะคะ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น